วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วัดศรีอุโมงค์คำ


วัดศรีอุโมงค์คำ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา ถ.ท่ากว๊าน ต.เวียง อ.เมือง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยา ราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 เพราะพบหลักฐานเป็นพระพุทธรูปหินทราย และงานแกะสลักหินทรายอื่นๆ
ในส่วนของชื่อวัดแห่งนี้ มีเอกสารระบุว่า คำว่า “ศรี” หรือที่ล้านนาอ่านว่า “สะ-หรี” หมายถึง ต้นโพธิ์ หรือความเป็นมงคล เป็นสิ่งอันประเสริฐ ดังนั้นคนโบราณจึงใช้ชื่อศรีนำหน้าเพื่อความเป็นสิริมงคล
ส่วนคำว่า“อุโมงค์” นั้นชัดแจ้งว่าหมายถึงอุโมงค์ หรือถ้ำ ซึ่งเดิมทีชาวบ้านเชื่อกันว่าใต้ฐานโบสถ์ของวัดแห่งนี้ มีถ้ำหรืออุโมงค์อยู่ สามารถลอดไปโผล่ยังแม่น้ำอิงที่ไหลผ่านใจกลางกว๊านพะเยาได้
และสุดท้ายคำว่า “คำ” หมายถึง ทองคำ ซึ่งที่มาของคำนี้มีความเชื่อแยกย่อย แตกออกไป 3 ประการด้วยกัน
ประการแรกเชื่อว่าที่นี่มีพระพุทธรูปทองคำฝังอยู่ใต้ฐานอุโมงค์
ประการที่สองเชื่อว่าที่นี่มีอุโมงค์ลงรักปิดทอง สามารถนำพระบรมธาตุมาประดิษฐานไว้ได้
และประการที่สามเชื่อว่า เชื่อว่าที่นี่มี“สะเปา”(เรือ)ที่ลงรักปิดทองอยู่
วัดศรีอุโมงค์คำ ชาวบ้านมักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดสูง” ตามลักษณะพื้นที่ตั้งวัดที่เป็นเนินสูงเด่น เป็นเนินที่เกิดจากการขุดสระของชาวบ้านแล้วนำดินไปถมจนเกินเป็นเขินเขาขนาดใหญ่ขึ้นมา โดยเหตุผลของการขุดสระนั้นมีอยู่ 2 ประการด้วยกัน
ประการแรก เมืองพะเยาก่อนที่จะมีกว๊านพะเยาดังเช่นทุกวันนี้ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง มักประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านจึงร่วมมือกันขุดสระขึ้นมา เพื่อใช้อุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตรกรรม
ประการที่สอง ชาวบ้านขุดสระขึ้นมาเพราะต้องการดินมาสร้างเป็นเนินเขาขนาดย่อม เพื่อก่อสร้างวัด เจดีย์ วิหาร ลงบนเนินให้ดูมีความโดดเด่น สูงสง่า สมค่ากับการเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
ขณะเดียวกันก็มีบางข้อมูลระบุว่า เนินภูเขาดินของวัดศรีอุโมงค์คำนั้น สร้างขึ้นจากดินที่ขุดมาจากกว๊านพะเยา แต่ถ้าพิจารณาให้ดีๆจะพบว่าพ.ศ.ที่สร้างกว๊านพะเยานั้น ห่างจากอายุความเก่าแก่ของวัดแห่งนี้อยู่เป็นร้อยๆปีเลยทีเดียว
และนั่นก็คือที่มาที่ไปของวัดศรีอุโมงค์คำที่แม้จะมีความเชื่ออันหลากหลายมาเกี่ยวข้อง แต่ว่าความเชื่อบางอย่างก็มีความสมเหตุสมผลอยู่ในตัวของมัน
ของดีวัดศรีอุโมงค์คำ
วัดศรีอุโมงค์คำ ถือเป็นหนึ่งในวัดสำคัญของจังหวัดพะเยาที่มีของดีในระดับโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อยู่มากพอดู
เริ่มกันตั้งแต่สิ่งที่มองเห็นมาแต่ไกลเมื่อย่างก้าวเข้าวัดมานั่นก็คือ องค์พระธาตุเจดีย์บนเนินที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลังของโบสถ์ เจดีย์องค์นี้บางข้อมูลระบุว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยเชียงแสน แต่จากเอกสารของวัดระบุว่าไม่ปรากฏหลักฐาน ปี พ.ศ.ที่สร้างชัดเจน แต่น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี ลักษณะเจดีย์แม้เป็นทรงล้านนาทั่วไป แต่มีความโดดเด่นตรงที่มีฐานย่อมุมไม้ 12 และมีซุ้มพระประดับอยู่ทั้ง 4 ด้าน
ด้วยความที่เจดีย์องค์นี้ ในอดีตมักถูกฟ้าผ่าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้คนโบราณหลายคนเชื่อว่าเป็นเจดีย์อาถรรพ์ แต่หากมองกันในข้อเท็จจริงของหลักวิทยาศาสตร์ ยุคนั้นยังไม่มีสายล่อฟ้าการที่เจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่บนเนินที่สูงถือเป็นสื่อนำไฟฟ้าอย่างดี ดังนั้นเมื่อกาลเวลาผ่านไปมีการติดตั้งสายล่อฟ้าที่เจดีย์ขึ้นก็ทำให้ปัญหาเรื่องฟ้าเจดีย์หักพังเป็นอันหมดไป
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่มีคนเคยเห็นแสงคล้ายลูกแก้วลอยจากพระธาตุวัดลี มาสู่องค์พระธาตุที่วัดศรีอุโมงค์คำในค่ำคืนวันพระสำคัญๆนั้น ถือเป็นคำบอกเล่าที่วันนี้ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้
จากเจดีย์ก่อนที่จะเข้าไปชมของดีภายในโบสถ์ ขอพาไปไหว้“พระเจ้าทันใจ” ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระหลังเล็กๆ ณ มุมหนึ่งของวัดกันก่อน


พระเจ้าทันใจองค์นี้ ดั้งเดิมเป็นพระจากที่ไหนไม่มีใครทราบ แต่ในปี พ.ศ. 2497 หลวงพ่อใหญ่ หรือพระธรรมวิมลโมลีที่ขณะนั้นเป็นพระครูพินิตธรรมประภาส ได้ย้ายจากวัดเมืองชุม ต.แม่ต๋ำ มาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ ความที่หลวงพ่อใหญ่เป็นผู้นิยมสะสมพระพุทธรูปเก่า เมื่อท่านพบพระพุทธรูปองค์นี้ที่สวนของนายอัฐ สายวรรณะ ใกล้ๆกับป่าช้าวัดลี(แหล่งขุดค้นงานพุทธศิลป์หินทรายอันสำคัญแห่งเมืองพะเยา) จึงอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดศรีอุโมงค์คำในปีเดียวกันนั่นเอง
พระเจ้าทันใจองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปหินทรายที่ได้ชื่อว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปหินทรายที่ขุดค้นพบ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ไม่มีชื่อเรียก แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน คนที่มาสักการะขอพรมักสมหวังในไม่นาน ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า “พระเจ้าทันใจ”
ใกล้กับพระเจ้าทันใจมีพระพุทธรูปหินทรายสีอ่อนกว่าองค์เล็กกว่าประดิษฐานอยู่ข้างๆ พระพุทธรูปองค์นี้คือ “พระเจ้ากว๊าน”องค์จำลอง
สำหรับพระเจ้ากว๊าน หรือ “หลวงพ่อศิลา” เป็นพระพุทธรูปหินทรายสกุลช่างพะเยา ปางมารวิชัยอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี ถูกค้นพบในกว๊านพะเยาช่วงน้ำลดในปี พ.ศ. 2526 (ก่อนจะเป็นอ่างเก็บน้ำในปี 2482 กว๊านพะเยาเคยเป็นชุมชนมีวัดมีหมู่บ้านมาก่อน)
พระเจ้ากว๊าน ถูกอัญเชิญจากกว๊านพะเยามาประดิษฐานที่วัดศรีอุโมงค์คำอยู่ 20 กว่าปี จนกระทั่งทางการบูรณะปรับแต่ง”วัดติโลกอาราม”กลางกว๊านพะเยาเสร็จสิ้น จึงได้ได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับไปประดิษฐานที่วัดติโลกอารามในกว๊านพะเยาตามเดิม

นั่นจึงทำให้ทางวัดศรีอุโมงค์คำ สร้างองค์พระเจ้ากว๊านจำลองขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงว่าครั้งหนึ่งท่านเคยมาประดิษฐานอยู่ที่นี่
 พระพุทธรูปสำคัญภายในโบสถ์
โบสถ์ของวัดศรีอุโมงค์คำ ตั้งอยู่บนเนิน ลักษณะภายนอกดูเรียบง่ายเหมือนโบสถ์ทั่วไป ส่วนลักษณะภายในนั้นยิ่งดูเรียบง่ายเข้าไปใหญ่ ไม่มีจิตรกรรมฝาผนังลวดลายวิจิตร ไม่มีอะไรหวือหวา มีเพียงองค์พระประธานและพระพุทธรูปบริวารประดิษฐานอยู่ ดูสงบนิ่งแฝงความขรึมขลังอยู่ในที
สำหรับภายในโบสถ์วัดศรีอุโมงค์คำที่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา ชนิดที่ใครหลายคนเมื่อมาเจอบรรยากาศแบบนี้แล้ว อาจจะทำเพียงแค่ยืนไหว้พระประธานที่ด้านนอกก่อนสะบัดเอวจากไป แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าไม่ด่วนใจร้อน ใช้เวลาเดินเข้าไปสักหน่อย สำรวจสังเกตมองให้ถ้วนถี่รอบคอบ จะพบว่าในโบสถ์หลังนี้มีพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะโดดเด่นเป็นพิเศษอยู่ 2 องค์ด้วยกัน
องค์แรกคือ องค์แรกคือ “พระเจ้าแข้งคม” ประดิษฐานอยู่ทางมุมด้านขวาของโบสถ์ พระเจ้าแข้งคมเป็นพระพุทธรูปหินทรายที่น่ายลงานศิลปะพื้นบ้าน
เหตุที่พระพุทธรูปองค์นี้ได้ชื่อว่าพระเจ้าแข้งคม เป็นเพราะท่านมีหน้าแข้ง(พระชงฆะ) เป็นเหลี่ยมเป็นสันคมชัดอย่างชัดเจน นับเป็นอีกหนึ่งในงานพุทธศิลป์พื้นบ้านล้านนาที่ปัจจุบันหาชมได้ยากยิ่ง
จากพระเจ้าแข้งคมมาถึงองค์พระประธานที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในโบสถ์ พระประธานองค์นี้คือ ”พระเจ้าล้านตื้อ”

พระเจ้าล้านตื้อ มีหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเมืองสร้อยพะเยา ในราวปี พ.ศ. 2058 แต่ไม่ทราบว่าดั้งเดิมมาจากที่ไหน เพราะพบถูกทิ้งอยู่ที่สนามเวียงแก้ว(ปัจจุบันเป็นที่ตั้งศาลหลักเมืองพะเยา) ก่อนถูกอัญเชิญมาเป็นพระประธานภายในโบสถ์วัดศรีอุโมงค์คำ
พระเจ้าล้านตื้อ เป็นปางมารวิชัย ทำจากทองสำริด หน้าตักกว้าง 184 เซนติเมตร สูง 270 เซนติเมตร มีอีก 2 ชื่อเรียกว่า “พระเจ้าแสนแส้” หรือ “หลวงพ่องามเมืองเรืองฤทธิ์”
สำหรับที่มาของชื่อพระเจ้าล้านตื้อนั้น คำว่าตื้อเป็นจำนวนนับของทางล้านนา ตื้อเป็นจำนวนนับที่เยอะมาก จากแสน ล้าน โกฏิ ก็เป็น“ตื้อ” ดังนั้นล้านตื้อจึงหมายถึงความมีน้ำหนักมากของพระพุทธรูปองค์นี้
ส่วนพระเจ้าแสนแส้(บางข้อมูลเขียนว่าแสนแซ่) “แส้” เป็นภาษาล้านนาหมายถึงสลัก พระพุทธรูปนี้มีความพิเศษตรงที่ ตลอดทั้งองค์ของท่านช่างทำเป็นสลัก สามารถถอดประกอบได้ มีทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน คือที่คอ(พระศอ) ข้อศอกทั้ง 2 ข้าง และที่เอว
ขณะที่ชื่อ“หลวงพ่องามเมืองเรืองฤทธิ์”นั้น เป็นชื่อที่มาทีหลัง ตั้งเพื่อยกย่องให้เกียรติในความงดงามพระเจ้าล้านตื้อ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งแห่งล้านนา โดยหลวงพี่ที่วัดแห่งนี้บอกกับผมว่า อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินนามอุโฆษ เมื่อมาเห็นพระพุทธรูปองค์นี้ แกไม่รีรอที่จะบอกว่าพระเจ้าล้านตื้องดงามที่สุดในล้านนาตั้งแต่แกเคยพบเจอมา
พระเจ้าล้านตื้อมีพระวรกายอวบอิ่ม สีทองงามอร่าม พระพักตร์ดูอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา มองแล้วให้ความรู้สึกสุขใจอิ่มบุญดีเหลือเกิน

และนี่ก็คือสุดยอดของดีของวัดศรีอุโมงค์คำ วัดที่แม้จะไม่ได้ชื่อว่า ถ้าไปแอ่วพะเยาแล้วไม่ได้เยือนวัดนี้เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึง แต่นี่ถือเป็นวัดที่ถ้าไปแอ่วพะเยาแล้ว หากมีโอกาสแวะเวียนไปเยือน เราก็จะมีกำไรในชีวิตเพิ่มมากขึ้น

 วัดราชคฤห์ ตั้งอยู่เลขที่ ๔๖๐/๓ ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา วัดนี้เป็นวัดนี้เป็นวัดที่อยู่ในตัวเมืองพะเยา ติดกับศาลหลักเมืองพะเยา ด้านหน้าประตูทางเข้าจะเป็นประตูโขงขนาดใหญ่เป็นการก่ออิฐถือปูนมีรูปเทวดาปูนปั้น บนยอดมีรูปพรหมสี่หน้า


ภายในวัดมีพระอุโบสถ กว้างราวประมาณ ๒๐ เมตร ยาวเกือบ ๔๐ เมตรภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย ลงรักปิดทอง งดงามองค์หนึ่งในล้านนา ด้านหลังพระอุโบสถเป็นองค์เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ย่อมุมมีซุ้มจรนำทั้งสี่ทิศ บนเรือนธาตุมีเจดีย์บริวารทั้งสี่ด้าน องค์ระฆังของเจดีย์ฉาบด้วยสีทอง ทางประตูข้าวของกำแพงแก้วมีรูปปั้นสิงห์คู่ทั้งสี่ด้าน

วัดราชคฤห์ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดใหม่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๑ และเคยเป็นที่จำพรรษาของพระราชวิริยสุนทร อดีตเจ้าคณะจังหวัดพะเยา




วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

Kwan Phayao Lake House กว๊านพะเยาเล๊คเฮ้าส์


Kwan Phayao Lake House 
กว๊านพะเยาเล๊คเฮ้าส์ บริการของ Kwan Aing Home Stay ตั้งอยู่ชุมชนวัดศรีอุโมงคำ 45 ถ.ราชวงค์ ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา กลางเมือง ใกล้กว๊าน ให้บริการ ที่พักรายวัน กาแฟสด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องปรับอากาศ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น อินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี(Wi-Fi) ที่จอดรถบนดิน กาแฟสด ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอกไก่ ทุกเช้า กิจกรรมท่องเที่ยวกับ กว๊านอิงโฮมสเตย์ สัมผัสวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ตลาดเช้า ตักบาตรริมกว๊าน นั่งเรือท่า”วัดติโลกอาราม” ไหว้พระเจ้ากว๊าน(หลวงพ่อศิลา) พระพุทธรูปหินทรายสกุลช่างพะเยา ปางมารวิชัย อายุกว่า 500 ปี กลางทะเลสาปกว๊านพะเยา  ขอพรพระเจ้าล้านตื้อ วัดศรีอุโมคำ เที่ยวสวนกาแฟอราบิก้า(แหล่งวัตถุดิบกาแฟ COWBOY COFFEE) สัมผัสกลิ่นไอสวนกาแฟ ลิ้มรสกาแฟสด พักแรม ณ.สวนกาแฟ ธรรมชาติชนบทและวิถีชีวิตท้องถิ่นบนดอย หรือท่านจะกลับสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นในเมือง วันศุกร์-เสาร์ ถนนคนเดินริมกว๊าน วันอาทิตย์ ถนนคนเดินเวียงแก้ว(ศาลหลักเมืองพะเยา) เครื่องดื่มเบาๆ กะกาแฟสด ให้วันพักผ่อนที่มีค่าของท่านที่ Kwan Phayao Lake House ยินดีต้อนรับให้บริการท่านที่มาพะเยา ติดต่อจองห้องพัก โทร 054431885 , 0857143454
 

เครื่องคั่วมาตรฐานกรมวิชาการเกษตร

เครื่องคั่วมาตรฐานกรมวิชาการเกษตร
เล็กพริกขี้หนูคั่วใหม่ทุกวันทุกครั้งที่สั่งเมล็ดกาแฟ cowboy coffee แนะนำร้านกาแฟแด่ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

แนะนำกาแฟ

COWBOY COFFEE ผลิต และจำหน่ายกาแฟคาวบอย กาแฟคั่วARABICA 100% กิโลกรัมละ 300 .- ARABICA BIEND ระดับการคั่วในรูปแบบมาตรฐานCOWBOYCOFFEE ติดต่อสั่งซื้อได้ที่ t.0812880752 t.0867299798